Apocalypse Nest

Apocalypse Nest

ชื่อดันเจี้ยน	Judge Apocalypse
สถานที่	Black Mountain Path
เลเวล	40
ระดับความยาก	Abyss
จำนวนห้อง	9

อดีตยานพาหนะสุดล้ำถือกำเนิดมาจากเรือเหาะข้ามกาลเวลาที่ Kevin ผู้เดินทางผ่านกาลเวลามาจากโลกอนาคตเป็นผู้สร้างขึ้น แต่ด้วยเหตุบางประการ ทำให้พาหนะสุดล้ำที่หอบเอาความหวังของเหล่าผู้คนจากอนาคต กลับกลายมาเป็นอสูรร้ายทรงอำนาจ ที่กลืนกินทั้งนักบิน ลูกเรือ มอนสเตอร์ และแม้กระทั่ง Kevin เพื่อเป็นพลังงานเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง กลายเป็นอสูรทำลายล้างนามว่า Apocalypse!!!

	Judge Apocalypse
	สายพันธุ์	พลังชีวิต	ความเร็ว	ธาตุ
	เครื่องจักร	เยอะมาก	ช้า	Light
	Abyss Mode | Hell Mode 5 ครั้ง/สัปดาห์ | 3 ครั้ง/สัปดาห์
ลักษณะการโจมตี ยิงแสงเลเซอร์ออกมาจากหนวดเพื่อโจมตี 8 ทิศทาง ปล่อยเสียงร้องคำราม มีผลให้ผู้ที่อยู่ในระยะถูกผลักกระแทกให้กระเด็นออกไป ใช้หนวดโจมตีศัตรูที่อยู่ด้านหน้า ใช้หนวดมุดลงไปใต้พื้น แล้วโผล่ออกมาจากพื้นเพื่อโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ในระยะด้วยแสงเลเซอร์ ถอยหลังนิดส์นึง แล้วพุ่งชนเป้าหมายที่อยู่ด้านหน้า (เป้าหมายมีไว้พุ่งชน -,-) กระแทกพื้น 2-3 ครั้งพร้อมกับสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับผู้ที่อยู่ใกล้ๆ (หลังจากแถบ HP หมดไป 1 หลอด) สะสมพลังงานไว้ในปาก 5 วินาที  จากนั้นจะยิงแสงเลเซอร์พลังทำลายล้างสูงพร้อมกับหมุนไปรอบๆตัว 360 องศา (หลังจากแถบ HP หมดไป 1 หลอด) หมุนตัวเพื่อโจมตีเป้าหมายที่เล็งไว้ -*- (หลังจากแถบ HP หมดไป 1 หลอด) สร้างจุดสีม่วงจำนวนมากบนพื้น หลังจากนั้น 1 วินาทีจะเกิดระเบิดแสงเพื่อสร้างความเสียหายขึ้นตรงจุดนั้น (หลังจากแถบ HP หมดไป 2 หลอด) แหกปากกว้างพร้อมกับทำให้พื้นที่ยืนอยู่ เกิดการปะทุระเบิดขึ้นโดยรอบ (หลังจากแถบ HP หมดไป 2 หลอด) สลัดหนวดให้หลุดออกมาเพื่อทำการไล่ล่า และทำให้คนที่โดนจับขยับไม่ได้พร้อมทั้งถูกลบบัพออกจนหมด และการป้องกันด้วยโล่ห์ไม่สามารถป้องกันการจับของหนวดไล่ล่าได้ (หลังจากแถบ HP หมดไป 3 หลอด) ชาร์ตแสงไว้ที่ตัวพร้อมกับทำการสั่นเพื่อสร้างแรงสะเทือนทั่วพื้นที่ หลังจากชาร์ต&สั่นประมาณ 15-20 วินาที จะเกิดระเบิดความรุนแรงสูงรอบฉาก
Combat Tips อย่าใช้ท่าโจมตีหมู่พร่ำเพรื่อ เพราะมันจำเป็นอย่างมากต่อการจัดการกับ หนวดไล่ล่า ที่บอสส่งออกมา หลีกเลี่ยงการอยู่กับที่เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลจากบอสแค่ไหนก็ตาม ท่าเลเซอร์มหาโหดที่ถูกพ่นออกมาจากปากแล้วหมุนรอบตัวนั้น แรงมว้ากกก... การหลบด้วยการวิ่งวนรอบตัวใกล้ๆบอสในทิศทางเดียวกับแสงเลเซอร์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้รอดได้ ขณะที่บอสใช้ท่าชาร์ตพลังเพื่อระเบิดรอบฉากตอนใกล้ตาย ให้รีบจัดการบอสให้เรียบร้อยภายใน 15-20 วินาที เพราะท่านี้เป็นอีกท่าที่แรงมว้ากกกกกกกกกกกกกกกกก........

Apocalypse Nest จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ คือ โซนแรก Abandoned Village of Lonely Woods และโซนที่สอง Judgement Mine ทั้ง 2 โซนจะมีห้องต่างๆรวมกันอยู่ทั้งหมด 8 ห้อง โดยแต่ละห้องจะมีบอสเฝ้าประจำอยู่ทั้งหมดก่อนถึงห้องสุดท้ายของ Apocalypse

ข้อมูลของแต่ละประตู

ภายในเนสต์นี้จะมีประตูใหญ่ซึ่งได้ถูกปิดเอาไว้ด้วยผนึกทั้งหมด 6 อัน การที่จะเข้าไปยังห้องสุดท้ายที่บอส Apocalypse อยู่ได้จะต้องปลดผนึกทั้งหมดนี้ก่อน โดยแต่ละผนึกจะปลดได้ก็ต่อเมื่อจัดการปราบบอสประจำพื้นที่สำเร็จ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องจัดการกับบอสให้ครบทุกห้อง ขอแค่รวบรวมกุญแจครบ 6 ดอกก็สามารถที่จะเข้าไปยังห้องบอสได้แล้ว แต่บางคนก็นิยมที่จะเคลียร์ให้หมดทุกห้องเพื่อเปิดห้องลับ ลุ้นไอเทมในหีบกันอีกต่อ ซึ่งห้องลับนี้ในโหมด Abyss บางทีก็ออกบางทีก็ไม่ออก (แล้วแต่ดวงเน้อ)

กุญแจที่ใช้ในการเปิดประตู

ด่านต่างๆ ภายในเนสต์นี้

Town Square (ได้กุญแจ 2 ดอก | ปลดผนึก Seal Stone 1 ลูก)

ณ ห้องโถงกลาง มียมทูตขาว White Soul พร้อมกันกับบรรดาลูกสมุนโครงกระดูกที่มารอต้อนรับเหล่าผู้มาเยือนทั้งหลาย มีเวลาให้ 120 วินาทีในการจัดการกับเจ้ายมทูตตัวนี้ ถ้าจัดการได้ตามเงื่อนไขก็จะได้รับกุญแจจากในหีบรวม 2 ดอก แต่ถ้าหมดเวลา 120 วินาทีแล้วยังจัดการบอสไม่เรียบร้อย ก็จะได้กุญแจเพียงแค่ 1 ดอกเท่านั้น


The Death God who fears the Light (ใช้กุญแจ 1 ดอก | ได้กุญแจ 1 ดอก | ปลดผนึก Seal Stone 1 ลูก)

หลังจากผ่านห้องแรกมา ให้ไปทางประตูด้านซ้ายมือและใช้กุญแจ 1 ดอกไขประตู (ประตูขวาจะใช้ 3 ดอก) เมื่อเข้ามาข้างในแล้วจะเห็นรูปปั้นคล้ายนาฬิกาอยู่กลางห้อง ให้กดสำรวจมันซะ แล้วมันจะส่องแสงสว่างผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ล่อบอสยมทูตดำ Midnight Death Howl ให้มาโดนแสง แล้วมันจะไม่สามารถขยับได้ชั่วขณะหนึ่งและตอนนี้เราจะสามารถโจมตีมันได้ ให้รีบสามารถกระหน่ำโจมตีมัน ด้วยเหตุนี้จะต้องมีใครซักคนคอยกดกลไกที่รูปปั้นนาฬิกากลางฉากเพื่อให้แสงส่องเข้ามาจากแต่ละมุมของห้อง เรียงตามลำดับดังนี้ (หันหน้าเข้าห้องบอส)...
ขวาบน > ขวาล่าง > ซ้ายบน > ซ้ายล่าง

ซึ่งแสงสว่างที่ฉายลงมาจะมีเวลาประมาณ 10-20 วินาที เมื่อเราจัดการบอสได้ ประตูเข้าห้องบอสจะค่อยๆ เปิดออก


5 Black Smoke Brothers (ใช้กุญแจ 1 ดอก | ได้กุญแจ 2 ดอก | ปลดผนึก Seal Stone 1 ลูก)

ที่ด่านนี้ เมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นรูปปั้นอยู่ 5 อัน ให้เน้นแค่รูปปั้นตรงกลางก็พอ หลังจากที่รูปปั้นทั้งหมดแตกออก จะมีควันสีดำออกมา ให้เล็งจัดการควันสีดำตัวกลางแค่ตัวเดียว และเมื่อจัดการเจ้าตัวกลางได้ เงาสีดำตัวอื่นๆที่เหลือก็จะหายไปเอง และถ้าไม่อยากเสียเวลาจัดการมากนัก จะต้องระวังอย่าให้มันมุดดินหรือเดินเพ่นพ่านไปทั่วโดยเด็ดขาด


Giant Wisp (ใช้กุญแจ 2 ดอก | ได้กุญแจ 2 ดอก | ปลดผนึก Seal Stone 1 ลูก)

บอสเฝ้าด่านนี้คือ ลูกไฟลอยได้ Vengeful Ling ที่สุดแสนจะน่ารำคาญ เพราะบอสตัวนี้มักจะวาร์ปไปมาระหว่างจุดวาร์ปของมันทั้ง 4 จุดอยู่ตลอดเวลา โดยลักษณะของด่านนี้จะมีพื้นที่เป็นวงกลม ให้พยายามแบ่งกลุ่มกันและรีบจัดการมันให้ไวที่สุด เนื่องจากบอสตัวนี้สามารถที่ฟื้นฟูพลังให้ตัวเองจนเลือดเต็มหลอดได้ และยังมีท่าที่แรงมากๆ อย่างสกิลระเบิดแสงซึ่งจะทำให้เราติดพิษอย่างต่อเนื่อง และให้ระวังสมุนของมันที่อยู่ทั่วฉากด้วย เนื่องจากพวกนี้ชอบล็อคเราให้ขยับไปไหนไม่ได้ หากบอสตัวนี้วาร์ปนี้ไปเกินกว่า 2 ประตู เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ให้ยืนรออยู่ที่เดิม เดี๋ยวมันก็วาร์ปกลับมาเอง (จากการต้อนของอีกกลุ่ม)

หลังจบห้องนี้ สามารถเลือกได้2ทาง ระหว่างกัปตันสุดโหด กับ แรดสุดช้า (The Iron Skin Ogre)
ห้องแรด The Iron Skin Ogre & Spider Queen : เดินเปิดประตูต่อจากบอสไฟ Vengeful Ling ได้เลย
ห้องกัปตัน The Fallen Bull Captain : เดินย้อนกลับมาจุดที่เจอผีขาวหรือบอสตัวแรก


The Iron Skin Ogre & Spider Queen (ใช้กุญแจ 2 ดอก | ได้กุญแจ 2 ดอก | ปลดผนึก Seal Stone 2 ลูก) (สามารถหลีกเลี่ยงได้)

ด่านที่เสียเวลาเป็นที่สุด เมื่อวาร์ปเข้าสู่ห้องบอส Obsessed Grunt ให้ทำลายไยแมงมุมที่ขวางทางอยู่ จากนั้นทำการล่อบอสให้วิ่งชนเพื่อทำลายกำแพงไปตามทางเรื่อยๆ โดยในระหว่างของแต่ละห้อง ให้จัดการมอนสเตอร์และทำลายแท่นหินตรงกลางให้หมด

เมื่อวิ่งไปจนสุดทางจะพบห้องโถงใหญ่ พร้อมกับบอสแมงมุม Stubborn Hellburnt รออยู่ ให้รีบจัดการบอสแมงมุมแล้วตีผลึกกลางห้องให้แตก ก็จะฆ่าบอสแรด Obsessed Grunt ได้แล้ว (เมื่อจัดการฆ่าบอสได้ตรงจุดนี้ ประตูเข้าห้องบอสก็๋จะได้เปิดแล้ว หากไม่ต้องการเปิดห้องลับก็ข้ามห้องบอสหลังจากนี้ได้เลย)


Minotaur Skeletal (ใช้กุญแจ 1 ดอก)
(สามารถหลีกเลี่ยงได้)

เมื่อเดินไปตามทางจะเจอด่านถัดไป จะพบกับเจ้าวัวกระดูก Minotaur Skeletal ซึ่งวัวตัวนี้จะเมีออร่า 2 สี ถ้าตีซอมบี้ที่มีสีเดียวกับออร่าบอสก็จะตีบอสไม่ได้และซอมบี้จะเกิดเยอะกว่าเดิม ให้สังเกตที่ออร่าของบอสให้ดี ถ้าบอสออร่าสีฟ้าให้ตีซอมบี้สีแดงให้หมด และในทางกลับกัน ถ้าบอสออร่าสีแดงให้ตีซอมบี้สีฟ้าให้หมดสลับกันไป


The Fallen Bull Captain (ใช้กุญแจ 3 ดอก | ได้กุญแจ 2 ดอก | ปลดผนึก Seal Stone 2 ลูก)

ให้เดินย้อนกลับมาจนถึงทางแรกที่เราเข้ามา(จุดที่เจอผีขาวหรือบอสตัวแรก) จะเจอประตูใช้กุญแจ 3 ดอกในครั้งแรก เมื่อเข้าไปจะเจอกับบอสโจรสลัด ให้รีบจัดการโดยเร็วที่สุด เพราะหลังๆบอสจะถึกมากๆ  ให้ระวังเมื่อเลือดบอสหมดไป 2 หลอดแล้ว จะมีสมุนมือปืนเกิดออกมามากขึ้นซึ่งจะสร้างความรำคาณเป็นอย่างมาก

*** ส่วนใหญ่เมื่อลงกัน จะข้ามด่าน The Iron Skin Ogre & Spider Queen และ Minotaur Skeletal กันเนื่องจากมันเสียเวลาวิ่งไล่จับกับบอส แต่ถ้าเพื่อนๆ สามารถที่จะเคลียร์ห้องบอสได้หมด เพื่อนๆ สามารถที่จะเปิดห้องลับ เพื่อที่จะได้รับ หินประจำอาชีพ และ เพชร ระดับ Ordinary ไปคนละเม็ดค่ะ (บางทีหีบก็ไม่ออกก็มีในโหมด Abyss แต่ถ้าเป็น Hell Mode จะออกเสมอและสามารถลุ้นเพลทได้ด้วย)

หลังจากที่ Seal Stone ทั้ง 6 อัน ถูกทำลาย ประตูสำหรับไปสู่ Thunder Beast จะเปิด หลังจากที่เอาชนะมันได้ ก็จะได้เจอกับ Apocalypse บอสตัวสุดท้ายของที่นี่


Thunder Beast

เจ้าบอสสุดโหดพลังป้องกันสูงลิ่ว ที่มีทีเด็ดเป็นท่าโจมตี ทีเดียวดับ!!! ให้ระวังให้ดี ซึ่งบอสตัวนี้มีท่าดังนี้
1. บอสคำราม - บอสจะวิ่งไปพร้อมๆ กับปล่อยสายฟ้าลงพื้นรอบๆ เส้นทางที่วิ่งไป ให้คอยโดดหลบสายฟ้าที่วิ่งมาตามพื้นให้ดี
2. บอสกุมหัวและส่ายซ้ายส่ายขวา - เป็นท่าเตรียมปล่อยสายฟ้าด้านหน้าบอส ให้คอยหลบให้ดี (เป็นสายฟ้าอารมณ์เดียวกับสายฟ้าดำในเนสต์เซอร์บีรัส)
3. ปาของ - เมื่อสู้บอสไปได้สักพัก บอสก็จะเริ่มโมโหเราและเอาพวกชิ้นส่วนเครื่องจักรรอบๆ ตัวมาปาใส่เรา ให้คอยหลบให้ดีเช่นกัน
4. ท่าชาร์จสายฟ้า - ท่าปล่อยสายฟ้า เป็นอีกท่าที่ทำให้สามารถโดนช๊อตจนายได้ โดยบอสจะชาร์จสายฟ้าไว้ที่ปากและทำการปล่อยสายฟ้ารอบตัวและทั่วทั้งแมฟ ซึ่งสกิลนี้จะเป็นสกิลไว้จัดการกับพวกสายยิ่งไกลเช่นสายเวทย์ หรือ นักธนูให้นอนได้ในดอกเดียวเช่นกัน (เนื่องจากวิ่งรอบนอกหลบท่ากอด แต่ถ้าไม่หลบท่านี้ก็จอดเหมือนกัน) ซึ่งเทคนิคในการหลบท่านี้คือ หลบตรงก้นบอส
5. ท่ากอดแห่งความตาย - เมื่อบอสส่ายตัวซ้ายขวาอย่างเร็วๆ เป็นท่าที่แสดงให้เห็นว่ามันกำลังจะปล่อยท่ากอดมรณะกับตัวละครที่อยู่ด้านหน้าแล้ว (ทีเด็ด!!!)

เทคนิคในการยกเลิกท่ากอด
- ให้พรีสต์ปล่อยเสาลงหน้าบอส เมื่อบอสกำลังทำท่ากุมหน้า (ก่อนปล่อยท่ากอดแห่งความตาย) ทำให้บอสติดสตั๊นท์และไม่ปล่อยท่า
- ท่า Armor Break ของพาลาดินมีโอกาสที่จะยกเลิกท่าของบอสได้ (ไม่เสมอไป)
- Arrow Shower ของ Bow Master สามารถแคนเซิลสกิลบอสได้
-ให้เพื่อนๆที่เหลือช่วยกันรุมสะกำ แล้วมันจะปล่อยเราเอง

เทคนิคในการหลบท่ากอด
- พาลากินสามารถใช้ท่า Avatar ในการต่อกรกับท่ายี้ได้
- ปล่อยสกิลอัลติเมตใส่บอสก่อนบอสจะกอด (ตอนบอสเหลือ 1 หลอด บอสจะไล่กอด)
- กลิ้งๆ เพื่อหลบการกอด (ไม่เสมอไป)
- ใช้เทคนิคการกดปุ่ม Escape Current Location เพื่อย้ายตำแหน่งของตัวละครหลบบอส

Apocalypse
เจอจนได้หลังจากฝ่าฟันด่านต่างๆ มามากมาย มาดูท่าต่างๆ ของเจ้า อโพ กันดีกว่า ว่าจะโหดร้ายขนาดไหน

Roar และ Piercing Tentacles
ท่าคำรามนี้จะไม่ทำดาเมจแก่เราแต่อย่างใด แต่จะผลักเราทุกคนให้กระเด็นออกห่างจาก ตัวเจ้าอโพ ส่วนท่าโจมตีธรรมดาของมันนั้น ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะจะโดนแต่คนแท้งเท่านั้น และความรุนแรงถือว่าไม่แรงมากนัก

Laser และ Piercing Tentacles
สกิลที่เอาไว้โจมตี พวกสายโจมตีระยะไกลโดยเฉพาะ สำหรับคนที่ยิงอยู่ไกลๆ อย่านิ่งนอนใจไป เพราะเจ้าอโพตัวนี้ ก็มีความฉลาดพอสมควร โดยมันจะทำการปักหนวดลงพื้น และโผล่ขึ้นมา และยิงเลเซอร์ หมุนรอบหนวด และยังมีการเรียกวงเวทย์แสงที่พื้น และจะทำการระเบิดอีกด้วย ส่วนวิธีการหลบก็แค่ สไลด์ ก็จะหลบได้ไม่ยาก

Laser 360 องศา
เมื่อเลือดลดไป 1 หลอด เจ้าอโพจะทำการชาร์จแสงที่ปาก พร้อมกับการโจมตีด้วยการยิงเลเซอร์ขนาดใหญ่และหมุนไปรอบๆ วิธีการหลบ ให้วิ่งวนไปรอบๆ ตัวอโพ โดยวนตามเลเซอร์ไป และให้เข้าประชิดตัวจะหลบง่ายที่สุด โดยท่านี้จะแรงมากกกกกกกกกกกกกกกก ถ้าโดนเข้าละก็ ทีเดียวตายแน่นอน คอนเฟิร์ม รับประกัน ตายจริงอะไรจริง!!! และขอแนะนำไม่ให้ใช้ บัพประเภท Super armor ที่ทำให้เราไม่กระเด็น เพราะถ้าเกิดไม่กระเด็นละก็ จะโดนดาเมจจากเลเซอร์รัวๆ แนะนำให้ปลิวไปตามแรงจะดีกว่า

Ground Explosion
ท่านี้ขอเรียกว่าเป็นท่าไม้ตายของมันละกัน เจ้าอโพคาลิป จะเริ่มใช้ท่านี้ เมื่อเลือดมันเหลือประมาณ 2 หลอด โดยมันจะแหกปากกว้างและ เรียกระเบิดขึ้นที่พื้นของเราทันที ให้ทำการเคลื่อนที่ตลอดเวลา อย่าอยู่กับที่ ไม่งั้นก็อาจจะเด้งไปเด้งมาแล้วตกลงมา กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไปเล้ยย!!!

Claw Minions
ท่าที่น่าเบื่อและ ทำเอาตายกันเป็นเบือมากที่สุดเลยของเจ้าอโพ ซึ่งเมื่อเลือดมันเหลือ 2 หลอด มันจะทำการเรียกสลัดหนวดของมันออกมา และเจ้าหนวดนี้ จะทำการวิ่งไล่ล่าเรา เมื่อมันถึงตัวเรามันจะทำการ จับตัวละครทำให้ตัวละครขยับไม่ได้ และเมื่อโดนจับ บัพที่เรามีทั้งหมด จะถูกลบออกไปอีกด้วย (ยกเว้นอัลติ Avatar จะไม่โดนจับ) โดยท่านี้จะบล็อกไม่ได้ ทำได้อย่างเดียว คือ ฆ่าเจ้าพวกนี้ก่อนที่มันจะจับตัวเราได้

Heaven’s Judgment
ท่าที่มีโอกาสออกน้อยที่สุด โดยจะใช้เมื่อเลือดเหลือ 1 หลอด หรือตอนใกล้ตาย ... แต่จะใช้ยากมากๆ จากการทดสอบอโพ จะมีโอกาสใช้ท่านี้น้อยมากๆ โดยมันจะทำการ ชาร์จแสงที่ตัวของมันและตัวอโพ จะสั่น ๆ พร้อมๆ กับพื้นรอบๆ มีแสงเต็มไปหมด ระยะเวลาประมาณ 15-20 วิ จะเกิดการระเบิดขึ้นรอบฉาก ต้องขอบอกว่า ตายแน่นอน ให้รีบฆ่ามันให้ไวที่สุด ก่อนการระเบิดจะเกิดขึ้นดีกว่านะ!!!


และนี่ คือฉายาที่จะได้หลังจากเคลียร์ Apocalypse Nest ได้ตามเงื่อนไข

ฉายาที่ได้จากการผ่าน Apocalypse Nest
ฉายา	เงื่อนไข	Bonus
เป็นที่รู้จัก	เคลียร์ Apocalypse Nest ภายใน 18 นาที	AGI +27, INT +26 Critical +96, Stun +90 Max HP +380
คนหนึ่งผู้เติบโตมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ	เคลียร์ Apocalypse Nest ด้วยจำนวนสมาชิกในทีม 4 คน โดยไม่มีใครตาย	P.Atk +25 ~ 25, M.Atk +25 ~ 25 Max HP +274, Max MP +274 MP Recovery +8
พี่น้องที่ไร้ความกลัว	เคลียร์ Apocalypse Nest ด้วยจำนวนสมาชิกในทีม 3 คน โดยไม่มีใครตาย	P.Atk +25 ~ 25, M.Atk +25 ~ 25 Max HP +345, Max MP +334 MP Recovery +10
คนหนึ่งผู้ปกครองแสง	สำเร็จภารกิจของ Apocalypse Nest ครบทั้งหมด	STR +24, AGI +22, INT +21, VIT +22 Light Def +5.00% Critical +100
Judge	บรรลุเมื่อจัดการ Judge Apocalypse ใน Hell Mode	AGI +18, INT +17 P.Def +96 Max HP +350
Lightning delivery	เคลียร์ Apocalypse Nest ใน Hell Mode ภายใน 15 นาที	AGI +21, INT +27 Max HP +360 Light Atk +5.00% Critical +90
สนุกมากเกินไป	เคลียร์ Apocalypse Nest ใน Hell Mode ด้วยจำนวนสมาชิกในทีม 4 คน โดยไม่มีใครตาย	AGI +17, INT +5 Max HP +300, Max MP +200
ไม่มีประสบการณ์ของการตาย	เคลียร์ Apocalypse Nest ใน Hell Mode ด้วยจำนวนสมาชิกในทีม 3 คน โดยไม่มีใครตาย	STR +15, INT +17, AGI +7 P.Atk +15 +15
Eliminate	เคลียร์ Apocalypse Nest ใน Hell Mode ด้วยจำนวนสมาชิกในทีม 2 คน โดยไม่มีใครตาย	P.Atk +20 +20, M.Atk +25 +25 Critical +50
Solo Private Pouch	เคลียร์ Apocalypse Nest ใน Hell Mode ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ตาย	VIT +22 P.Def +83 Max HP +220, Max MP +80

ที่มา: online-station.net , playdn.com และ dragonnestwiki.com