Cerberus Nest
ชื่อดันเจี้ยน | Cerberus Nest |
---|---|
สถานที่ | Black Mountain Path |
เลเวลขั้นต่ำ | 32 |
ระดับความยาก | Abyss, Hell |
จำนวนห้อง | 6 |
Cerberus Kakalri | ||||||||||||||||||||||||
Species | Health | Mov. Speed | Element | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Cerberus | เยอะมาก | ช้า | ||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||
|
มาเริ่มตะลุยถ้ำน้องหมา 3 หัวกันเลย
1.ปากทางสู่ประตูนรก
ถ้าเป็น Hell Mode จะแตกต่างจากโหมดธรรมดาตรงที่ หลังจากเราเริ่มสู้กับ 2 วัวผู้พิทักษ์ไปซักพัก จะมีฝูง Ogre ในชุดเกราะหนักโผล่เข้ามาทางประตูทิศเหนือเป็นกองหนุนให้เจ้าวัว 2 ตัวนี้ ในขณะที่เมื่อแถบเลือดเจ้าวัวแดงเหลือ 2x หลอดก็ชอบที่จะใช้สกิลดูดพวกเราให้เป็นที่รำคาณ ส่วนเจ้าตัวสีขาวก็ชอบที่จะทุบเราให้เคลื่อนที่ช้าบ้าง เป่าเราให้กระเด็นบ้าง ดังนั้น ก็แล้วแต่ละคนว่าจะรำคาณตัวไหนก็จัดการเจ้าตัวนั้นก่อนเลย โดยส่วนตัวแล้วเลือกที่จะซัดวัวแดงให้หมอบลงไปก่อน เนื่องจากสกิลดูดเรียกรวมอันแสนจะสร้างทั้งความคำคาณและลำบากนั่นเอง
2.นักรบเหล็กไหล
ในส่วนของ Hell Mode จะมีปืนใหญ่ที่อยู่บนหน้าผาคอยยิงใส่เราจากทั้ง 2 ฝั่งอยู่เรื่อยๆ ระวังอย่าอยู่กับที่นานๆ จะตกเป็นเป้าให้ถูกเล็งยิงได้ เทคนิคในการเคลียร์ด่านนี้คือ ให้จัดการเหล่าลูกสมุนตัวน้อยที่คอยกลิ้งลูกระเบิดมาใส่เราก่อน ระหว่างที่ไล่เก็บเจ้าพวกนี้ก็คอยเคลื่อนที่ไปด้วย ระเบิดลูกปืนใหญ่ที่ยิงลงมาจากหน้าผาจะยิงโดนพวกเดียวกันเอง เราก็คอยอาศัยจังหวะนั้นซ้ำ หลังจากจัดการเหล่าสมุนหมดเรียบร้อยค่อยเข้าไปลุยกับบอสเฝ้าประตูของด่านนี้ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
3.จอมขมังเวทย์
ระหว่างที่บอสประจำด่านยังยืนโชว์ตัวทำพิธีเรียกฝนอยู่บนเวทีนั้น ใน Hell Mode จะมี Ghoul เพิ่มขึ้นมาอีก 2 ตัว โดยที่ Suicide Bombers (Ghoul สีแดง) จะมาระเบิดตัวใส่เราและ Freezing Ghoul (Ghoul สีน้ำเงิน) จะคอยแช่แข็งตัวเราอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้แล้วยังมีโครงกระดูกอีก 4 ตัว และโครงกระดูกใส่เกราะอีก 4 ตัวคอยรุมเราก่อนที่บอสจะออกมา เทคนิคในการเคลียร์ด่านนี้คือ ให้รีบประเคนสกิลหมู่เพื่อจัดการเหล่าลูกสมุนให้หมดโดยเร็ว ถ้าใครรำคาณฝนที่บอสเรียกออกมาอยู่เรื่อยๆ จะถอยมาสู้แถวๆประตูทางเข้าก็เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง เมื่อเหล่าลูกสมุนถูกจัดการจนหมด บอสจอมเสกฝนก็จะได้ฤกษ์ลงมาจากเวที หลังจากนั้นจะมีลูกสมุนชุดใหญ่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ถึงตอนนี้สนใจแค่บอสตัวเดียวก็พอ หลังจากจัดการบอสเรียบร้อย พวกลูกสมุนจะหายไปเอง
สกิลของ Summoner ที่เด่นๆ ก็คือ
- Time Stop : สกิลหยุดเวลา สกิลสุดแสบที่เมื่อโดนแล้วจะเคลื่อนไหวไม่ได้ 5 วินาที
- AOE Slow : จะใช้เมื่อเลือดเหลือ 2x หลอด เป็นสกิลหลุมดำเล็กๆ สกิลหนึ่ง ที่จะทำให้เราเคลื่อนที่ได้ช้าลงพร้อมทั้งทำดาเมจให้กับตัวละครด้วย พร้อมทั้งสกิลฝนกรดที่จะค่อยๆ ลดเลือด
4.Time Sink Stage
ใน Hell Mode จะมี ฝูง Ogre Commanders และ Ogre Shamans เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นในการจัดการเคลียร์ฝูงมอนสเตอร์ให้หมด เทคนิคในการเคลียร์ด่านนี้คือ ถ้ามีสมาชิกมากกว่า 3 คน ในช่วงแรกให้แยกกันไปยืนเฝ้าปากทางที่มอนสเตอร์จะออกมาทั้ง 3 ทางและดักจัดการมอนสเตอร์ที่ออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ จนถึงระดับหนึ่งที่เริ่มจัดการไม่ไหวค่อยวิ่งหลบออกมารวมกลุ่มกับเพื่อน เลือกเอาซักมุม จากนั้นก็ระดมใช้สกิลหมู่ ระหว่างนี้ก็อย่าอยู่กับที่ให้นานเกินไป ไม่งั้นก็อาจจะโดนฝูงมอนสเตอร์หลุดเข้ามารุมล้อมจนเลือดลดและโจมตีกลับได้ลำบาก แต่ถ้าในกรณีที่มีสมาชิก 2 คนหรือน้อยกว่า ก็หามุมเหมาะๆ แล้วคอยวิ่งวนรอมอนสเตอร์รวมกลุ่ม จากนั้นก็ระดมใช้สกิลหมู่ ใช้สกิลเสร็จก็วิ่งวนใหม่ ทำไปเรื่อยๆ คอยระวังอย่าให้โดนล้อมได้ก็พอ
5.พี่น้องแรดขาว
เรียกได้ว่า นี่คืออีกหนึ่งในด่านชวนทะเลาะของปาร์ตี้ผสม(ต่างคนต่างมา)กันเลยเชียว ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ต้องใช้ในการกำจัดคู่พี่น้องแรดขาว ใน Hell Mode จะถูกลดลงมาจากปกติถึงครึ่งหนึ่ง ก็คือจะเหลือเวลาให้แค่ 5 วินาที ในการส่งพี่น้องสองแรดให้ไปเกิดใหม่ได้เท่านั้น นอกจากนี้ เจ้า 2 แรดพี่น้องยังมีสกิลฟื้นพลังชีวิตให้ตัวเองได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ถ้าเผลอเมื่อไหร่พี่แกฮีลเลือดกลับมาเกือบเท่าเดิม ทำให้โจมตีไปเท่าไรก็จะฮีลกลับขึ้นมาฟิตปึ๋งปั๋งใหม่อีก โดยเมื่อตัวหนึ่งฮีล สักพักอีกตัวก็จะฮีลตาม ให้คอยสังเกตตัวที่ใส่หน้ากากเหล็ก 2 เขา คือ เจ้า Commander เจ้าตัวนี้จะ Magic Defense สูง และจะคอยใช้สกิลอ้วกพิษลงพื้นอยู่เป็นระยะ = ='' ให้คอยหลบให้ดี ส่วนอีกตัวจะมีแค่เขาเดียว คือ Slave และจะแพ้ทางธาตุแสง ซึ่งถ้ามีอาชีพสาย Cleric อยู่ในทีมก็จะช่วยให้กำจัดเจ้าตัวนี้ได้เร็วขึ้นมาก
Final Stage
หมานรก Cerberus ใน Hell Mode จะมีความสามารถในการใช้สกิลที่เพิ่มขึ้น และสามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้นแตกต่างเดิมมาก เรียกได้ว่าถ้าเผลอก็มีวูบในทีเดียวได้เหมือนกัน
- Firewall
เป็นสกิลเดียวกันกับ Firewall ของ Elemnetal Lord และอาจจะเป็นสกิลที่โดนทีเดียวแล้วสามารถนอนได้ สืบเนื่องจาก Cerberus Hell Mode มีสกิลไฟหลายอย่าง ทำให้การสังเกตเพียงแค่ออร่าสีแดงๆ หรือร่องรอยไฟจากการเดินเพียงลำพังไม่ได้ ให้คอยสังเกตหัว Cerberus ให้ดี โดยเฉพาะหัวขวาสุด จะเป็นตัวที่บอกว่าจะใช้สกิล Firewall โดยเมื่อจะใช้สกิลนี้ Cerberus จะก้มหัวขวาสุดต่ำลง นอกเหนือจากออร่าไฟที่บอสจะชาร์จให้เห็นก่อนปล่อยสกิลใส่เรา โดยเราจะมีเวลา 3 วินาทีในการหลบสกิลนี้
- Blizzard
อีกหนึ่งสกิลที่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงจนกระทั่งสามารถทำให้นอนได้เช่นกัน วิธีการหลบหลีกสกิลนี้คืออย่าอยู่นิ่งและอย่าอยู่กันเป็นกระจุกกับคนอื่นๆ ในปาร์ตี้ ให้สังเกตออร่าสีฟ้าๆ และสังเกตุหัว Cerberus ให้ดี โดยเฉพาะหัวขวาสุด จะเป็นตัวที่บอกว่าจะใช้สกิล Blizzard เช่นกัน โดยที่สกิลนี้จะมีจุดด้อยของมันคือ จะโจมตีซ้ำจุดเดิมๆ ของเป้าหมายที่โดนสกิลนี้ หมายความว่าถ้าเพื่อนๆ สามารถหลบออกจากตรงที่สกิลลงได้ ก็จะไม่ได้รับผลใดๆ จากสกิลนี้ แต่ให้คอยระวังอย่าวิ่งตามเพื่อนๆ ไป แล้ววิ่งเข้าไปโดนสกิลนี้เสียเองหล่ะ เพราะเจ็บหนักแน่นอน
- AOE Lightning หรือ สกิลสายฟ้าหมู่
สกิลนี้เป็นสกิลที่ทำดาเมจได้ต่อเนื่องและเยอะรวมถึงน่ารำคาญมากๆ สกิลหนึ่ง อาจจะช๊อตรอบหนึ่งๆ ทำดาเมจถึง 1k+และเมื่อโดนสกิลนี้เข้าไปมีโอกาสที่จะติดสถานะไฟช๊อต (ตัวละครจะช๊อคทุกๆ 5 วิทนาที ทำให้ใช้สกิลไม่ได้) วิธีการที่จะหลบสกิลนี้คือ
1. ออกให้พ้นจากระยะของสกิล (สายยิงไกล)
2. ที่ไหนก็ได้ ขอให้ใกล้ๆ ตัว Cerberus มากที่สุด (สายประชิด)
ซึ่งสกิลนี้เป็นสกิลที่สังเกตท่าก่อนใช้สกิลได้ง่ายที่สุด เนื่องจาก Cerberus จะยืนขึ้นด้วยขาหลังก่อนที่จะโถมตัวลงมาใส่ด้วยขาหน้า ทำให้เกิดฝุ่นตลบก่อนและตามมาด้วยสายฟ้ารอบๆ ตัว
- 2 ฝ่าเท้ากระทืบโลกันตร์
โดยปรกติแล้ว Cerberus จะใช้อุ้งเท้าในการตบผู้เล่นที่ยืนอยู่ด้านหน้า หากเพื่อนๆ ไม่สามารถที่จะหลบลูกตบแรกได้ อย่าได้กลิ้งหนีไปในทิศทางตรงกันข้ามเด็ดขาด เพราะจะเจอลูกตบลูกที่ 2 ตามมาติดๆ อย่างเช่นหากเพื่อนๆ โดนตบด้วยอุ้งเท้าซ้ายก่อน ให้กลิ้งหลบออกไปทางซ้าย เนื่องจาก Cerberus จะตบต่อด้วยอุ้งเท้าขวา
- Glacial Spike และ Chilling Mist
Cerberus จะปล่อย 1-2 Glacial Spike เข้าหาผู้เล่น ให้คอยหลบหลีกสกิลให้ดีและคอยระวังอย่าโดนบอสจับเราแช่แข็ง มิฉะนั้นเราจะโดนต่อด้วยสกิล Firewall ซึ่งก็ไม่รอดแน่นอนหากโดนซัดสกิลต่อกันแบบนี้ ต่อด้วยสกิล Chilling Mist ซึ่งจะเป็นสกิลที่เหมือนกับสกิลของ Elemental Lord และมีระยะการโจมตีใกล้ๆ กับบอสเอง สามารถหลบหลักสกิลนี้ได้ไม่ยากเช่นกัน
- Dark Lightning Bolt
ใน Hell Mode จะมีลูกสายฟ้าลอยอยู่รอบๆ ตัวบอส 4 ลูก ซึ่งมีความสามารถเหมือนหลุมดำของ Force User ซึ่งจะสร้างความเสียหายรุนแรงได้หากไปโดนเข้าและหัวตรงกลางจะปล่อยสกิลสายฟ้าใส่ผู้เล่น ซึ่งถ้าหากโดนจะติดสถานะไฟช๊อต 15 วินาที
- Ball of Fire
สกิลนี้จะมาจากหัวขวา ซึ่ง Cerberus จะยิงบอลไฟออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง ราวกับปืนกลไฟ ซึ่งถ้าหากโดนเจ้าบอลไฟเข้า ตัวละครของเพื่อนๆ จะมีโอกาสล้มและติดสถานะถูกเผาได้
- Fire Trail และ Air Pounce
Fire Trail จะเห็นในเฉพาะ Hell Mode เท่านั้น และจะเกิดเป็นแนวทางยาวของไฟบนพื้นตลอดจุดที่ Cerberus ได้ชาร์จสกิลและวิ่งผ่าน ส่วน Air Pounce นั้น Cerberus จะกระโดดหาผู้เล่น โดยเฉพาะสาย DPS เพื่อที่จะจัดการตัวละครที่ทำความเสียหายให้กับมันเยอะที่สุด
- AOE Roar (สกิลหอนหมู่หรือเป่าหมู่)
สกิลนี้จะสร้างความเสียหายเป็นรัศมี 180 องศา ซึ่งก็หมายความว่า หากเพื่อนๆ ยืนอยู่ด้านข้างก็มีโอกาสที่จะโดนสกิลนี้เช่นกัน
และเมื่อคว่ำน้องหมา 3 หัวลงได้แล้ว นอกจากไอเท็มต่างๆ ก็จะได้ฉายาเป็นตอบแทนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
ฉายาที่ได้จากการผ่าน Cerberus's Nest | ||
---|---|---|
ฉายา | เงื่อนไข | Bonus |
Lord of Madness | บรรลุเมื่อจัดการบอสหมา 3 หัว Kelberose Kakalri ใน Cerberus's Nest | Fire Def +5.00%, Ice Def -2.00% |
Immortal | เคลียร์ Cerberus's Nest ด้วยจำนวนสมาชิกในทีม 4 คน โดยไม่มีใครตาย | P.Def +57, M.Def +57 |
Last Assailant | บรรลุภารกิจ ปราบบอสเฝ้าประตูของแต่ละด่าน ทั้งหมด 5 ตัว ที่ Cerberus's Nest | INT +15 P.Def +50 |
แปลก... | เคลียร์ Cerberus's Nest ด้วยจำนวนผู้รอดชีวิต 3 คน | STR +9, INT +7, VIT +8 |
ไม่ธรรมดา | เคลียร์ Cerberus's Nest ด้วยจำนวนผู้รอดชีวิต 2 คน | AGI +7 P.Atk +19 ~ +19 |
Maverick | เคลียร์ Cerberus's Nest ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ตาย | P.Atk +24 ~ +24, M.Atk +24 ~ +24 |
The Wicked | เคลียร์ Cerberus's Nest ภายใน 18 นาที | AGI +7 Max HP +203, Max MP +203 |
เหนือความคาดหมาย | เคลียร์ Cerberus's Nest ภายใน 13 นาที | STR +7, AGI +7, INT +7, VIT +7 |
Hell Conqueror | บรรลุภารกิจของ Cerberus's Nest ครบทั้งหมด | P.Atk +22 ~ +22, M.Atk +22 ~ +22 Max HP -127, Max MP -127 |
Endless Challenge | เคลียร์ Cerberus's Nest ใน Hell Mode ด้วยจำนวนสมาชิกในทีม 4 คน โดยไม่มีใครตาย | STR +8, AGI +8, INT +8, VIT +8 |
Expert Dodger | เคลียร์ Cerberus's Nest ใน Hell Mode ด้วยจำนวนผู้รอดชีวิต 3 คน | STR +9, INT +9, VIT +9 |
Angry | เคลียร์ Cerberus's Nest ใน Hell Mode ด้วยจำนวนผู้รอดชีวิต 2 คน | AGI +7 P.Atk +19 ~ +19 Critical +36 |
Famous | เคลียร์ Cerberus's Nest ใน Hell Mode ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ตาย | STR +7, AGI +7 P.Atk +24 ~ +24, M.Atk +24 ~ +24 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น